
คำว่า MP3 ได้มาจากคำว่า "MPEG-1 Audio Layer 3" หรือในคำที่เป็นทางการว่า "ISO/IEC 11172-3 Layer 3" อย่างไรก็ตามแฟ้มนามสกุล ".mp3" บางแฟ้มก็ใช้การเข้ารหัสแบบใหม่ที่มีชื่อว่า "MPEG-2 Audio Layer 3" หรือ "ISO/IEC 13818-3 Layer 3"
MP3 เป็นรูปแบบการบีบอัดข้อมูลแบบมีการสูญเสียข้อมูลบางส่วน ใช้แทนข้อมูลเสียงที่เข้ารหัสแบบ PCM ให้มีขนาดที่เล็กโดยตัดข้อมูลบางส่วนที่พิจารณาแล้วว่าระบบการได้ยินของมนุษย์เกือบจะไม่สามารถรับฟังได้ (แนวคิดนี้คล้ายกับการบีบอัดข้อมูลภาพแบบ JPEG) วิธีการต่างๆที่ช่วยให้สามารถตัดข้อมูลบางส่วนออกไปได้ได้ถูกนำมาใช้กับ MP3 รวมทั้ง psychoacoustics ข้อมูลเสียงแบบ MP3 สามารถบีบอัดให้มีขนาดที่

เป็นรูปแบบแฟ้มที่เป็นการบีบอัดข้อมูลแบบมีการสูญเสียข้อมูลบางส่วนออกมา เพื่อให้ปริมาณข้อมูลลดลง แต่ยังคงคุณภาพใกล้เคียงกับสัญญาณเสียงเดิม อาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่เป็นเพียงเล็กน้อย และในการเข้ารหัสแบบ MP3 เป็นการเข้ารหัสของเพลงเป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้สามารถใช้เนื้อที่ได้มากขึ้น และสามารถรวบรวมแฟ้มเพลงหลายๆแฟ้มมารวมอยู่ในรูปของ MP3 ทำให้ไม่สิ้นเปลืองเนื้อที่ในการจัดเก็บข้อมูล
[แก้] ข้อดีของการเก็บแฟ้มในรูปแบบ MP3
เนื่องจากแฟ้ม MP3 เป็นแฟ้มที่มีขนาดเล็ก ดังนั้นจึงใช้พื้นที่ในการเก็บน้อย
โปรแกรมที่ใช้เล่นแฟ้ม MP3 ก็เช่น โปรแกรม Windows Media Player และโปรแกรมนี้ก็จะมีมากับเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว ไม่ต้องไปหา Download ใหม่ (แต่ต้องเป็น windows 98 ขึ้นไป) รวมไปถึง Winamp ซึ่งหา download ได้ทั่วไป
นับเวลาได้ 1 ปีมาแล้วที่เครื่องเล่น MP3 แบบพกพารุ่นแรกได้ปรากฏโฉมออกสู่ตลาด จนถึงปัจจุบันนี้ได้มีการผลิตเครื่องเล่น MP3 ออกมามากมายให้ผู้ที่ชื่นชอบการฟังเพลงได้เลือกใช้กัน จากความหลากหลายของเครื่องเล่น MP3 นี้เอง ได้สร้างความหนักใจให้กับคุณๆ ผู้ใฝ่หาความบันเทิงจาก MP3 ว่าจะตัดสินใจเลือกซื้อรุ่นใดหรือยี่ห้อใดจึงจะดีและเหมาะสมที่สุด
เราได้รวบรวมเครื่องเล่น MP3 จำนวน 7 รุ่นเพื่อทดสอบการทำงาน พบว่าเครื่องเล่น MP3 ทุกเครื่องที่เราทดสอบแทบจะไม่มีความแตกต่างกันเลยในเรื่องคุณภาพของเสียง แต่จะแตกต่างกันในส่วนของความจุในการเก็บข้อมูล การรองรับมีเดียภายนอก และรูปแบบการเชื่อมต่อเพื่อถ่ายโอนไฟล์เพลงสุดโปรดจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณลงสู่เครื่องเล่น MP3 รวมไปถึงความยากง่ายในการใช้งาน พร้อมด้วยคุณสมบัติพิเศษอาทิ สามารถบันทึกเสียงหรือใช้เป็นวิทยุได้ คุณภาพของหน้าจอแสดงผล LCD และการดีไซน์รูปลักษณ์ภายนอกของตัวเครื่อง เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาด้วยเช่นกันครื่องเล่น MP3 ทั้ง 7 รุ่นนั้น มีอยู่ 5 รุ่นที่ใช้การเชื่อมต่อแบบพอร์ตขนานหรือต่อกับพอร์ตพรินเตอร์นั่นเอง ซึ่งการโหลดข้อมูลเข้าตัวเครื่องจะช้ากว่าเมื่อเทียบกับรุ่นที่มีการเชื่อมต่อแบบพอร์ต USB อีก 2 รุ่นคือ รุ่น
Diamond Rio500 และรุ่น HanGo Personal Jukebox สำหรับมีเดียในการเก็บข้อมูล ส่วนใหญ่มักจะเลือกใช้แบบ SmartMedia หรือไม่ก็แบบ CompactFlash ซึ่งแบบ SmartMedia จะเป็นการ์ดที่มีขนาดเล็กกว่า แต่แบบ CompactFlash จะสามารถจุข้อมูลได้ถึงสองเท่าหรือมากกว่า Smart Media ที่มีความจุสูงที่สุด จากการทดสอบของเรา เราได้เลือกเอาเครื่องเล่น MP3 รุ่น Rio 500 เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากเรื่องของความจุในการเก็บข้อมูลที่มีทั้งหน่วยความจำภายในและรองรับมีเดียภายนอกได้ มีการเชื่อมต่อแบบพอร์ต USB ที่รวดเร็ว ส่วนอีกรุ่นหนึ่งที่มีคุณสมบัติเป็นเลิศเช่นกันคือ Sensory Science raveMP2100 รุ่นนี้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณผู้ใช้ที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์แบบเก่าที่ยังใช้พอร์ตแบบขนานอยู่
ความหมายของสัญลักษณ์ Audiovox MPDj MP-1000
มีหน่วยความจำในตัว 32 เมกะไบต์ ใช้อุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบ SmartMedia และใช้หน้าจอ LCD ที่คมชัด อ่านได้ง่าย แต่เรามองเห็นความไม่สมบูรณ์ในการออกแบบของ MP-1000 ตัวเครื่องสร้างขึ้นอย่างไม่มีคุณภาพ (เพราะเราได้เห็นรอยแตกของตัวเครื่องเมื่อใช้งานได้เพียง 2 วัน) ฝาที่ใช้ปิดช่องเสียบการ์ดหน่วยความจำปิดไม่สนิท เลื่อนหลุดได้ง่าย และปุ่มที่ใช้งานก็อยู่ในตำแหน่งที่ทำให้ MP-1000 ใช้งานได้ยุ่งยากกว่าเครื่องเล่น MP3 รุ่นอื่นๆ น่าแปลกที่ MP-1000 มีไมโครโฟนเป็นอุปกรณ์เสริมรวมอยู่ด้วยทั้งๆ ไม่มีฟีเจอร์ในการบันทึกเสียงมาด้วย ส่วนซอฟต์แวร์ที่มีมาให้นั้นใช้งานง่าย และหน้าจอ LCD ก็แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับเพลงที่เล่นอยู่ได้ดีพอสมควร
เปิดตัวออกมาเป็นรุ่นที่ 2 ของ Diamond Rio ด้วยคุณสมบัติพิเศษต่างๆ ที่รวบรวมไว้ด้วยกันภายใต้รูปลักษณ์ที่ทันสมัยสวยงาม Diamond Rio 500 ได้รับเลือกให้เป็นที่ 1 จากการทดสอบของเรา (นอกจากนี้ยังได้รับรางวัล "Technical Excellence award" จากนิตยสาร PC Magazine เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2542 อีกด้วย) การควบคุมหรือการใช้งานบนตัวเครื่องเข้าใจได้ง่าย หน้าจอ LCD มีขนาดที่ใหญ่พอสมควรและมีแสงไฟเมื่ออยู่ในที่มืด Rio 500 มีหน่วยความจำในตัว 64 เมกะไบต์ เช่นเดียวกับรุ่น Sensory Science raveMP และมีสล็อตหรือช่องสำหรับเสียบการ์ดหน่วยความจำภายนอกชนิด SmartMedia เพื่อเพิ่มความจุของข้อมูลให้กับตัวเครื่องได้อีก เครื่องใช้การต่อเชื่อมแบบพอร์ต USB ในการถ่ายโอนไฟล์เพลงจากเครื่องคอมพิวเตอร์ไปยังเครื่องเล่น MP3 สำหรับซอฟต์แวร์ของ Rio 500 ชื่อว่า RioPort Audio Manager สามารถแสดงส่วนของอินเทอร์เฟซได้อย่างครบถ้วน แต่ใช้งานค่อนข้างยุ่งยาก
HanGo Personal Jukeboxมีฮาร์ดดิสก์ในตัวขนาด 4.86 กิกะไบต์ ซึ่งสามารถบรรจุเพลงได้มากทีเดียว รวมทั้งสามารถเล่นเพลงต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 80 ชั่วโมง มีความเร็วในการเข้ารหัส 128 กิโลบิตต่อวินาที มีการเชื่อมต่อแบบพอร์ต USB เช่นเดียวกับ Diamond Rio 500 เนื่องจาก Personal Jukebox มีการติดตั้งฮาร์ดดิสก์ภายในตัว จึงต้องการแบตเตอรี่ที่เป็นลิเทียมไอออนชนิดชาร์จได้และสามารถต่อกับไฟฟ้าที่ใช้ภายในบ้านได้ เราชอบใจปุ่มควบคุมการทำงานที่แต่ละปุ่มจะแยกการทำงานเฉพาะส่วนทำให้ใช้งานได้ง่ายและจัดวางไว้อย่างเหมาะสม
มีจุดเด่นตรงที่มีการติดตั้ง FM-Tuner สามารถใช้เป็นวิทยุได้ แต่การออกแบบตัวเครื่องมีหน้าจอ LCD ขนาดเล็กสักหน่อย ทำให้อ่านข้อความไม่สะดวกและไม่สามารถแสดงรายชื่อเพลงที่กำลังเล่นอยู่ได้ I-Jam ใช้ SanDisk MultiMediaCard เป็นตัวเก็บข้อมูล ซึ่งมีอยู่ 2 การ์ด แต่ละการ์ดมีความจุ 16 เมกะไบต์ เล่นเพลงต่อเนื่องได้นาน 24 นาที อัตราการเข้ารหัส 96 กิโลบิตต่อวินาที และสามารถใช้งานได้ทีละการ์ดเท่านั้น อีกทั้งยังมี External MultiMediaCard Reader ทำให้สามารถลากไฟล์ที่ต้องการมาใส่ลงในหน่วยความจำได้เลยซึ่งเพิ่มความสะดวกและง่ายดายยิ่งขึ้น ปุ่มควบคุมของ I-Jam ใช้งานไม่ค่อยสะดวกนัก คำอธิบายการใช้งานยังไม่ดีพอ และปุ่มเดียวต้องควบคุมการทำงานหลายอย่างทำให้ใช้งานได้ยาก เช่น ปุ่ม Forward และปุ่ม Rewind ยังใช้ในการควบคุมระดับเสียงอีกด้วย


ความหมายของสัญลักษณ์ Audiovox MPDj MP-1000
มีหน่วยความจำในตัว 32 เมกะไบต์ ใช้อุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบ SmartMedia และใช้หน้าจอ LCD ที่คมชัด อ่านได้ง่าย แต่เรามองเห็นความไม่สมบูรณ์ในการออกแบบของ MP-1000 ตัวเครื่องสร้างขึ้นอย่างไม่มีคุณภาพ (เพราะเราได้เห็นรอยแตกของตัวเครื่องเมื่อใช้งานได้เพียง 2 วัน) ฝาที่ใช้ปิดช่องเสียบการ์ดหน่วยความจำปิดไม่สนิท เลื่อนหลุดได้ง่าย และปุ่มที่ใช้งานก็อยู่ในตำแหน่งที่ทำให้ MP-1000 ใช้งานได้ยุ่งยากกว่าเครื่องเล่น MP3 รุ่นอื่นๆ น่าแปลกที่ MP-1000 มีไมโครโฟนเป็นอุปกรณ์เสริมรวมอยู่ด้วยทั้งๆ ไม่มีฟีเจอร์ในการบันทึกเสียงมาด้วย ส่วนซอฟต์แวร์ที่มีมาให้นั้นใช้งานง่าย และหน้าจอ LCD ก็แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับเพลงที่เล่นอยู่ได้ดีพอสมควร

เปิดตัวออกมาเป็นรุ่นที่ 2 ของ Diamond Rio ด้วยคุณสมบัติพิเศษต่างๆ ที่รวบรวมไว้ด้วยกันภายใต้รูปลักษณ์ที่ทันสมัยสวยงาม Diamond Rio 500 ได้รับเลือกให้เป็นที่ 1 จากการทดสอบของเรา (นอกจากนี้ยังได้รับรางวัล "Technical Excellence award" จากนิตยสาร PC Magazine เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2542 อีกด้วย) การควบคุมหรือการใช้งานบนตัวเครื่องเข้าใจได้ง่าย หน้าจอ LCD มีขนาดที่ใหญ่พอสมควรและมีแสงไฟเมื่ออยู่ในที่มืด Rio 500 มีหน่วยความจำในตัว 64 เมกะไบต์ เช่นเดียวกับรุ่น Sensory Science raveMP และมีสล็อตหรือช่องสำหรับเสียบการ์ดหน่วยความจำภายนอกชนิด SmartMedia เพื่อเพิ่มความจุของข้อมูลให้กับตัวเครื่องได้อีก เครื่องใช้การต่อเชื่อมแบบพอร์ต USB ในการถ่ายโอนไฟล์เพลงจากเครื่องคอมพิวเตอร์ไปยังเครื่องเล่น MP3 สำหรับซอฟต์แวร์ของ Rio 500 ชื่อว่า RioPort Audio Manager สามารถแสดงส่วนของอินเทอร์เฟซได้อย่างครบถ้วน แต่ใช้งานค่อนข้างยุ่งยาก
HanGo Personal Jukeboxมีฮาร์ดดิสก์ในตัวขนาด 4.86 กิกะไบต์ ซึ่งสามารถบรรจุเพลงได้มากทีเดียว รวมทั้งสามารถเล่นเพลงต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 80 ชั่วโมง มีความเร็วในการเข้ารหัส 128 กิโลบิตต่อวินาที มีการเชื่อมต่อแบบพอร์ต USB เช่นเดียวกับ Diamond Rio 500 เนื่องจาก Personal Jukebox มีการติดตั้งฮาร์ดดิสก์ภายในตัว จึงต้องการแบตเตอรี่ที่เป็นลิเทียมไอออนชนิดชาร์จได้และสามารถต่อกับไฟฟ้าที่ใช้ภายในบ้านได้ เราชอบใจปุ่มควบคุมการทำงานที่แต่ละปุ่มจะแยกการทำงานเฉพาะส่วนทำให้ใช้งานได้ง่ายและจัดวางไว้อย่างเหมาะสม

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น